วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

มาซื้อกระถางต้นไม้ร้านผมได้นะครับ

ทางร้าน "บ้านสวนทองหวั่น"
มีกระถางสวยๆงามๆ
ไว้ให้ลูกค้าที่น่ารัก
มาอุดหนุน นะครับ !!!







วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

แผนที่ร้านบ้านสวนทองหวั่น

แผนที่นี้จะกำหนดเส้นทาง
จากวิทยาลัยประมง มาถึงร้านผมครับ
ร้านผมอยู่ ถนนติณสูลานนท์
ปากซอยทองหวั่นอุทิศ3 นะครับ


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

มีจำหน่ายนะครับ

สนใจต้นไหนแวะมาอุดหนุนได้นะครับ
เพิ่งลงใหม่ 3 ต้น แรกนะครับ



ต้นข้าวตอกพระร่วงใบใหญ่


ต้นพุดตะแคง



ต้นแย้มปีนัง






ต้นสนเลื้อย


ต้นสยามออรอร่า







ต้นเศรษฐีเรือนนอก


ต้นอโกลนีมา Aglaonema


ต้นคล้าเเตงโม


ต้นนางพญาค้าทอง




ต้นเสน่ห์ขุนเเผน


ต้นฟิโลทอง




ต้นออมเงิน



ต้นเเววมยุรา


ต้นบังลังก์เงิน


ต้นชวนชม


ต้นบัลลังก์ทับทิม


ต้นเศรษฐีก้านทอง



ต้นเข็มแดง


ต้นขันหมากราชา



ต้นเศรษฐีมีทรัพย์ หรือ ต้นเศรษฐีรินเงิน

ต้นหัวใจโฮย่า

พันธุ์ไม้แขวนสวยๆที่ทางร้านมีจำหน่าย

Pepperomia (เป็ปเปอร์โรเมีย)

เป็ปเปอร์โรเมีย เป็นพืชที่มีมากมายหลายชนิด 
ส่วนใหญ่เป็นไม้ประดับในร่ม เป็นพันธุ์ไม้ที่มีขนาดเล็กขึ้น 
หนาแน่นเป็นกอ มีใบค่อยข้างหนาและเป็นมันเงา มีสีต่างๆ กัน 
ส่วนใหญ่เป็นสีเรียบๆ ไม่ค่อยฉูดฉาดรูปใบ
ส่วนมากไม่มีแฉกหรือรอยเว้าขอบใบเรียบดอกมีลักษณะคล้ายดอกพริกเป็ปเปอร์โรเมีย
เป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นและแสงสว่าง 
ถ้าปลูกประดับไว้ในมุมที่แสงสว่างไม่พอจะทำให้ใบมีสีซีดไม่สวย 

ต้นไก่ลาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน (ไม้มงคล)

ลักษณะทั่วไป

ลักษณะเช่นเดียวกับเศรษฐีเรือนนอก และเศรษฐีเรือนกลาง ใบมีลักษณะเดียวกับเศรษฐีเรือนนอก 

แต่ลายด่างขาวหรือขาวนวลจะอยู่ส่วนกลางใบ ขอบใบเป็นสีเขียว 
ออกดอกเหมือนกับว่านเศรษฐีเรือนกลาง

การปลูก

ควรปลูกในดินร่วนซุย หรือดินปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี หากมีอิฐหักหรือหินเล็กๆ ปนลงไปด้วยจะช่วยให้แตกกอเร็วขึ้น ต้องการน้ำปานกลางสม่ำเสมอ ความชื้นสูง แดดรำไร จะปลูกลงกระถางแขวน หรือกระถางทรงเตี้ยปากกว้างก็สวยงามดี

การขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากไหลไปปลูกใหม่

ความเป็นมงคล

ว่านเศรษฐีเรือนใน มีสรรพคุณด้านเสี่ยงทายและป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง 

เช่นเดียวกับว่านเศรษฐีเรือนนอก และเศรษฐีเรือนกลาง 

ต้นผีเสื้อราตรี
เป็นพืชล้มลุก  มีหัว  มีใบประกอบคล้ายนิ้วมือ  มักจะหุบใบในเวลากลางคืน
ใบ  -  ลักษณะใบประกอบคล้ายสามเหลี่ยม  โดยมีมุมแหลมชนกัน  มีสีชมพู - ม่วง
ดอก  -  ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว  โดยก้านดอกออกจากก้านลำต้น 
 มีสีชมพูม่วง  มีกลีบดอก  5 กลีบ  เป็นดอกสมบูรณ์เพศ  มีเกสรตัวผู้ 5-6 ตัว
 
การดูแลรักษา
แสง                            ต้องการแสงมาก เมื่อได้รับแสงสีของใบก็จะสดใสน่ามองยิ่งขึ้น
น้ำ                              ให้น้ำพอประมาณ อย่าให้เปียกแฉะมากเกินไป
ดิน                              เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย
ปุ๋ย                              ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพราะจะช่วยทำให้ดินร่วนซุย
การขยายพันธ์          หน่อ 

ตะบองเพชรหรือCactus


  ตะบองเพชรหรือแคทตัสที่เรารู้จักทั่วไปเป็นต้นไม้ยืนต้นที่น่าสนใจเพราะเด่นสะดุดตาเนื่องจากมีหนามหรือตุ่มหนามปกคลุมทั่วต้น ลำต้นมีรูปร่างอวบสั้น เพราะมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน ดอกไม่มีก้านดอก แต่มีสีสันสดสวย และกลีบดอกบอบบาง ต้นตะบองเพชรที่ปลูกตามบ้านอาจมีรูปร่างแตกต่างกันมากมายเช่นเป็นรูปทรงกลมหรือทรงกระบอก บ้างชอบขึ้นเดี่ยว บ้างก็ขึ้นเป็นกลุ่ม ตะบองเพชรบางพันธุ์มีขนาดต้นเล็กกะทัดรัด แต่บางพันธุ์ก็สูงใหญ่ถึง 24เมตร ตะบองเพชรบางพันธุ์ไม่มีใบ เพราะใบได้กลายเป็นรูปเป็นหนาม ทั้งนี้ก็เพื่อลดการคายน้ำของต้น และใช้หนามในการป้องกันอันตรายจากสัตว์และคน
ตามปกติตะบองเพชรเป็นพืชที่ชอบขึ้นในที่ที่มีอากาศร้อนแห้งแล้งความทนทานเช่นนี้ทำให้มันสามารถเติบโตงอกงามได้ในทุกสภาพพื้นที่เช่น ชายทะเล ทุ่งหญ้าในป่าที่มีความชื้นสูง ภูเขา หรือตามไหล่เขา และแม้แต่ในทะเลทรายก็มีตะบองเพชรเช่นกัน มันชอบดินโปร่งที่ร่วน เพราะน้ำสามารถไหลผ่านรากมันได้สะดวก การมีขี้เถ้าแกลบ ปุ๋ยดอก อิฐหัก หรือกระดูกป่นในดินที่ใช้ปลูกก็สามารถทำให้ตะบองเพชรเติบโตได้ดี แต่จะอย่างไรก็ตาม ชาวไร่ตะบองเพชรก็รู้ดีว่า ต้นไม้ของตนจะงอกไม่งาม ถ้าต้นขาดน้ำ ดังนั้น เขาจึงนิยมรดน้ำให้ถึงรากและเริ่มรดครั้งต่อไป เมื่อดินเริ่มแห้งข้อควรระวังอีกประการหนึ่งคือตะบองเพชรไม่ชอบดินที่มีน้ำขังหรือดินแฉะ   
นอกจากนี้ชาวไร่ก็ต้องควบคุมแสงแดดให้พอเหมาะพอดีด้วย เพราะแสงที่เหมาะกับต้นอ่อนคือ แสงแดดในยามเช้าและบ่ายที่แดดไม่ร้อนจัด การได้แสงที่มากไป จะทำให้ต้นแห้งตาย แต่หากได้รับแสงพอเหมาะต้นอ่อนจะเจริญงอกงาม เมื่อเหตุและผลเป็นเช่นนี้ ดังนั้น ชาวไร่หลายคนจึงนิยมปลูกตะบองเพชรในเรือนกระจก เพราะสามารถควบคุมอุณหภูมิที่ระดับ 27-32 องศาเซลเซียสได้
ในการให้ปุ๋ยก็เช่นกัน ถ้าให้มากไปสีของต้นจะเปลี่ยน คืออาจจะเขียวมากขึ้นได้ ดังนั้น ชาวไร่จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ปุ๋ยเกิน ครั้งใน 1-2 สัปดาห์ และต้องระมัดระวังไม่ให้ความเข้มข้นของปุ๋ยสูงเกินไปด้วย

ตะบองเพชรหรือCactus
ที่ร้านบ้านสวนทองหวั่น 
มาอุดหนุนกันได้นะครับ